ตามที่มีการร้องเรียน/ร้องทุกข์ ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี กรณีราษฎณไม่ประสงค์ออกนาม ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากการเลี้ยงสุกรของฟาร์มสุกร ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหัวงัว อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ นั้น
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 เวลา 10.00 น. สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสนม สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสนม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวงัว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสองห้อง องค์การบริหารส่วนตำบลหัวงัว กำนันตำบลหัวงัว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 และผู้ประกอบการฟาร์มสุกรที่ถูกร้องเรียน ได่ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบกลิ่นเหม็นจากฟาร์มสุกร หมู่ที่ 1 ตำบลหัวงัว อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ สามารถสรุป้อเท็จจริงได้ดังนี้
1. ข้อเท็จจริง
ฟาร์มสุกรที่ถูกร้องเรียนชื่อ เกียรติศักดิ์ฟาร์ม ตั้งอยู่เลขที่ 209 หมู่ที่ 1 ตำบลหัวงัว อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ มีนายเกียรติศักดิ์ คำสุมาลี เป็นผู้ประกอบการ ขณะตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการเลี้ยงหมูขุน จำนวน 1,400 ตัว อายุสุกรประมาณ 5 เดือน โดยเลี้ยงสุกรในโรงเรือนระบบปิด จำนวน 2 หลัง ท้ายโรงเรือนมีพัดลมระบายอากาศ จำนวน 7 ตัว/โรงเรือน ผู้ประกอบการแจ้งว่า ทำความสะอาดโรงเรือนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ระบายมูลและน้ำเสียทั้งหมดลงระบบบำบัดน้ำเสีย แบบ cover lagoon ซึ่งมีบ่อบำบัด จำนวน 4 บ่อ โดยไม่มีการระบายน้ำเสียออกนอกฟาร์ม ขณะตรวจสอบพบว่าบ่อ cover lagoon (บ่อที่ 1) ไม่สามารถเดินระบบได้ตามปกติ เนื่องจากคันดินขอบบ่อพังลงมาปิดแผ่นพลาสติก ตั้งแต่ต้นปี 2561 ขณะตรวจสอบสอบมีกลิ่นเหม็นเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากบริเวณด้านหลังพัดลมระบายอากาศ พื้นที่โดยรอบฟาร์มติดพื้นที่การเกษตร 3 ด้าน ด้านหน้าติดถนน ห่างจากชุมชนซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ประมาณ 500 เมตร
2. แนวทางการแก้ไข
2.1 ให้ผู้ประกอบการดำเนินการดังนี้
(1) ทำความสะอาดโรงเรือนอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อลดการสะสมของมูลและน้ำเสียในโรงเรือน ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็น
(2) จัดทำระบบดูดซับกลิ่นด้วยระบบสเปรย์และวัสดุชุ่มน้ำบริเวณด้านหลังพัดลมระบายอากาศท้ายโรงเรือนทั้ง 2 หลัง ทั้งนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน หลังวันเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง
(3) ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียบ่อ cover lagoon (บ่อที่ 1) ให้สามารถบำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561
(4) ปลูกต้นไม้โตเร็วเป็นแนวกันชนรอบฟาร์มให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับจากวันเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง
2.2 ให้องค์การบริหารส่วนตำบลหัวงัว ดำเนินการกำกับ ติดตาม การปรับปรุงแก้ไขของฟาร์มให้เป็นไปตามข้อแนะนำของคณะเจ้าหน้าที่ตามข้อ 2.1 และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ว่าด้วยเหตุเดือนร้อนรำคาญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
2.3 ให้องค์การบริหารส่วนตำบลหัวงัว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวงัว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสองห้อง กำนันตำบลหัวงัว และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ประชาสัมพันธ์ผลการปรับปรุงแก้ไขของฟาร์มให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบโดยทั่วกัน
2.4 ให้อำเภอสนม กำกับองค์การบริหารส่วนตำบลหัวงัว ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาเหตุเดือนร้อนรำคาญดังกล่าวต่อไป
